วันเด็กปีนี้ชวนน้องๆ หนูๆ มาวัดสายตากัน เพราะเราใส่ใจ อย่างเต็มใจ

วันเด็กปีนี้ชวนน้องๆ หนูๆ มาวัดสายตากัน

 

ในยุคปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญเกือบจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการดำรงชีวิต เห็นได้จากการที่พ่อแม่ ผู้ปกครองส่วนใหญ่ นิยมจะให้เด็กมีสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตไว้ใช้เพื่อการติดต่อสื่อสารหรือเพื่อสร้างความบันเทิง แต่อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์อิเล็กทอนิกเหล่านั้นอาจจะนำมาซึ่งปัญหาและผลกระทบต่อเด็ก ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวได้เช่นกัน

การที่เด็กจ้องหน้าจอแสงสีฟ้าเป็นเวลานาน ดวงตาจะแห้งและมีการระคายเคือง เนื่องจาก ตาขาดน้ำหล่อเลี้ยง ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสายตาสั้นหรือมีอาการปวด อาทิเช่น อาการปวดหู ปวดศีรษะ เป็นต้น

Computer Vision Syndrome (CVS) คืออะไร
CVS คือกลุ่มอาการทางตาที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์มากเกินไป เช่น ปวดตา ตาล้า แสบตา ระคายเคืองตา ตาแดงเป็นๆ หายๆ ตามัว ตาแห้ง เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันอาการนี้ไม่ได้พบเฉพาะในผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ยังพบในเด็กเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เคล็ดลับป้องกันการเกิด computer vision syndrome หรืออาการเมื่อยล้าทางตาจากการใช้คอมพิวเตอร์
1. การตรวจสุขภาพตา ควรทำเป็นอันดับแรก ซึ่งทาง KT OPTIC มีบริการการตรวจวัดสายตาด้วยเทคโนโลยีที่แม่นยำและทันสมัย หากมีความผิดปกติเกี่ยวกับสายตาพร้อมให้คำแนะนำและเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการตาล้า

  1. ใช้จอคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสมและปรับแสงสว่างให้พอเหมาะ ควรปรับให้ได้แสงที่ทำให้สบายตามากที่สุด ไม่มืดหรือสว่างจนเกินไป และควรจัดแสงจากภายนอกให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เช่น โคมไฟ หรือแสงจากหน้าต่าง ไม่ให้แยงตาโดยตรงเพราะจะทำให้ตาล้ามากขึ้น
  2. การกะพริบตาให้บ่อยขึ้น และเมื่อกะพริบตา 1 ครั้งจะทำให้มีน้ำตาออกมาเคลือบตา ช่วยให้ไม่แสบตา มองเห็นภาพชัด แต่เมื่อตั้งใจมองอะไรนานๆ เช่น อ่านหนังสือ ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ เราจะกะพริบตาน้อยลงกว่าปกติและกะพริบตาไม่สุด การเคลือบของน้ำตาจึงลดลง ทำให้ตาแห้ง แสบตา มองเห็นภาพไม่ชัด ดังนั้นหากไม่สามารถกะพริบตาได้เท่าปกติในขณะอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ควรมีช่วงพักให้บ่อยขึ้นหรือหยอดน้ำตาเทียมเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ตาแห้ง
  3. พักสายตาโดยใช้กฎ 20-20-20 หมายถึง ทุก 20 นาทีที่ใช้สายตาในการดูคอมพิวเตอร์ให้พักสายตาโดยการมองไปไกลๆ ประมาณ 20 ฟุตอย่างน้อย 20 วินาที แล้วจึงกลับมาดูคอมพิวเตอร์ต่ออีก 20 นาที ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ใช้ในการโฟกัสหน้าจอคอมพิวเตอร์
  4. ใช้อุปกรณ์ป้องกันแสงสีฟ้า เช่น แว่นตา แผ่นฟิล์มหรือจอกรองแสง แอพพลิเคชันกรองแสงสีฟ้าบนมือถือ ซึ่งทาง KT OPTIพร้อมให้คำแนะนำเรื่องแว่นตากรองแสงและเลนส์ตัดแสงสีฟ้า เพื่อปกป้องสายตา ช่วยกรองแสงจากจอมือถือและจอคอมพิวเตอร์ อาจเป็นตัวช่วยหนึ่งที่ลดแสงสีฟ้าลงได้
  5. กำหนดระยะห่างระหว่างสายตากับหน้าจอให้เหมาะสม จะช่วยให้การกำลังโฟกัสของระยะสายตามีความพอดีและช่วยไม่ให้ดวงตามีอาการล้าได้ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรจัดระยะห่างให้เหมาะสม เพื่อสุขภาพสายตาที่ดีสำหรับลูกๆ รวมถึงคุณพ่อคุณแม่เองด้วย

เพราะฉะนั้น คุณพ่อและคุณแม่อย่าลืมดูแลและตรวจวัดสุขภาพสายตาให้ลูกๆในยุคดิจิทัล ที่ร้านแว่นตา KT OPTIC  กันด้วยนะคะ เพราะที่นี่มีบริการการตรวจวัดสายตาด้วยเทคโนโลยีที่แม่นยำและทันสมัยที่สุดระดับโลกอย่างระบบ KTAC ที่มีความละเอียดมากถึง 15 ขั้นตอน พร้อมด้วยการให้บริการและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดโดย Style advisor หรือพนักงานผู้เชี่ยวชาญประจำสาขาของเราที่ได้รับการอบรมความรู้ตามมาตรฐานสากล 

จากมาตรฐานอันยอดเยี่ยมในการบริการที่เรายึดถือตลอดมา ทำให้มั่นใจว่าเรานั้นใส่ใจอย่างเต็มใจมากกว่าใคร..

Copyright © 2017. KT OPTIC All rights reserved.